รพ.สต.ยางใหญ่ ตรวจคัดกรองไวรัสตับอักเสบบี และ ซี

สำนักงานสาธารณสุขอำเภอน้ำยืน
เป็นนายตัวเอง เร่งสร้างสิ่งใหม่ ใส่ใจประชาชน ถ่อมตนอ่อนน้อม


ในวันที่ ๒๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๙ เวลาประมาณ ๐๙.๐๐ น นายสมชัย บูรณะ นายอำเภอน้ำยืนได้ตรวจเยี่ยมสาธารณสุขอำเภอน้ำยืน
โดยมีผู้ช่วยสาธารณสุขอำเภอน้ำยืน นาย สากล สีทากุล รวมทั้งบุคลากรต่างๆให้การนำเสนอแผนการปฏิบัติราชการตามปีงบ และได้ให้การต้อนรับท่านนายอำเภอในครั้งนี้เป็นอย่างดียิ่ง

28 พฤษภาคม 2561
สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 10 อุบลราชธานี
“ประเมินผลการดำเนินงาน อำเภอต้นแบบปลอดโรคพิษสุนัขบ้า ปี 2561 ”
ได้ ความร่วมมือภาคีเครือข่ายความร่วมมือระหว่างเครือข่ายสาธารณสุข ปศุสัตว์ และ อปท. ในการดำเนินงาน
อำเภอต้นแบบปลอดโรคพิษสุนัขบ้า อำเภอน้ำยืน
จังหวัดอุบลราชธานี
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมของชุมชนในการป้องกันควบคุมโรคพิษสุนัขบ้า และลดความเสี่ยงของการเสียชีวิตด้วยโรคพิษสุนัขบ้า
โดยมีนายสมชัย บูรณะ นายอำเภอน้ำยืน
นายชวน จันทร์เลื่อน สาธารณสุขอำเภอน้ำยืน
เจ้าหน้าที่จากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอุบลราชธานี
สำนักงานสาธารณสุขอำเภอน้ำยืน โรงพยาบาลน้ำยืน ปศุสัตว์จังหวัดอุบลราชธานี ปศุสัตว์อำเภอน้ำยืน นายกองค์การบริหารส่วนตำบล นายกเทศมนตรี กำนัน ตัวแทนผู้ใหญ่บ้าน
ขอขอบคุณ ภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน ที่ทำให้การ”ประเมินผลการดำเนินงาน อำเภอต้นแบบปลอดโรคพิษสุนัขบ้า ปี 2561 ”
ครั้งนี้ผ่านพ้นไปด้วยดีคะ

วันนี้ (21 มกราคม 2559) นายแพทย์อำนวย กาจีนะ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า จากกรณีที่มีข่าวเจ้าหน้าที่สาธารณสุขไต้หวัน เฝ้าระวังและตรวจพบชายไทยที่กำลังเดินทางสู่ไต้หวันมี เชื้อไวรัสซิกา ที่กำลังระบาดในหลายประเทศในแถบลาตินอเมริกาและแคริบเบียน นั้น เมื่อวานนี้(20 มกราคม 2559) กรมควบคุมโรค ได้ประชุมปรึกษาหารือผู้เชี่ยวชาญ เรื่อง โรคไข้ซิกา เพื่อเตรียมการเฝ้าระวังและหารือมาตรการป้องกันโรคดังกล่าว โดยมีศาสตราจารย์เกียรติคุณนายแพทย์ประเสริฐ ทองเจริญ ที่ปรึกษากรมควบคุมโรค เป็นประธาน พร้อมคณะที่ปรึกษากรมควบคุมโรค ผู้ทรงคุณวุฒิฯ กรมควบคุมโรค คณะแพทย์จากมหาวิทยาลัย กรุงเทพมหานคร หน่วยงานในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
สำหรับสถานการณ์โรค ไข้ซิกา ประเทศไทยพบครั้งแรก พ.ศ.2555 พบกระจายทุกภาคและมีผู้ป่วยยืนยันเฉลี่ยปีละ 5 ราย สาเหตุหลักเกิดจากโดนยุงลายที่มีเชื้อไวรัสซิกากัด และช่องทางอื่นที่เป็นไปได้ เช่น การแพร่ผ่านการถ่ายเลือด แพร่จากจากมารดาที่ป่วยสู่ทารกในครรภ์ ทั้งนี้ ได้เตรียมการเฝ้าระวังโรค โดยแบ่งเป็น 4 ด้านสำคัญ ดังนี้ 1.การเฝ้าระวังทางระบาดวิทยา 2.การเฝ้าระวังทางกีฏวิทยา 3.การเฝ้าระวังทารกแรกเกิดที่มีความพิการแต่กำเนิด และ 4.การเฝ้าระวังกลุ่มอาการทางระบบประสาท
ด้านการรักษา โรคนี้ยังไม่มีวัคซีนและยังไม่มียารักษาเฉพาะ จึงต้องรักษาตามอาการ คำแนะนำสำหรับประชาชน คือการกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุง และป้องกันไม่ให้ยุงกัด ด้วยการนอนในมุ้งหรือทายากันยุง ซึ่งเป็นการป้องกันควบคุมโรคเช่นเดียวกับไข้เลือดออก หากประชาชนมีอาการไข้ ออกผื่น ตาแดง หรือปวดข้อ อาจมีโอกาสที่จะเป็นโรคนี้ได้ ส่วนใหญ่อาการไม่รุนแรง ยกเว้นในหญิงตั้งครรภ์ซึ่งอาจทำให้เด็กทารกที่คลอดมามีสมองเล็ก หรือมีภาวะแทรกซ้อนระหว่างตั้งครรภ์
แนะนำให้รับประทานยาพาราเซตามอล ห้ามรับประทานยาแอสไพริน หรือยากลุ่มลดอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์(NSAIDs) เพราะมียาบางชนิดที่เป็นอันตรายสำหรับการเป็นโรคนี้ อาจทำให้เลือดออกในอวัยวะภายในได้ง่ายขึ้น คำแนะนำสำหรับผู้เดินทางไปประเทศที่มีการระบาดของโรคไข้ซิกา(ประเทศในแถบลาตินอเมริกาและแคริบเบียน) ขอให้ผู้เดินทางระมัดระวังป้องกันไม่ให้ยุงกัด โดยสวมเสื้อแขนยาว กางเกงขายาวให้มิดชิด และใช้ยาทาป้องกันยุงกัด หากเป็นหญิงตั้งครรภ์ก่อนเดินทางไปประเทศที่มีการระบาดของโรคควรปรึกษาแพทย์

ส่วนผู้เดินทางกลับจากประเทศที่มีการระบาด รวมทั้งหญิงตั้งครรภ์ที่อยู่ในประเทศไทย มีอาการไข้ ออกผื่น ตาแดง หรือปวดข้อ สามารถมารับการรักษาและปรึกษาได้ที่คลินิกเวชศาสตร์การท่องเที่ยวและการเดินทาง สถาบันบำราศนราดูร โรงพยาบาลเวชศาสตร์เขตร้อน มหาวิทยาลัยมหิดล และสามารถรับการรักษาได้ที่โรงพยาบาลของรัฐทุกแห่ง ทั้งนี้ กรมควบคุมโรค ได้เตรียมจัดทำประกาศกรมควบคุมโรค เรื่อง“ โรคไข้ซิกา ” เพื่อให้ประชาชนตระหนักในมาตรการป้องกันโรคและช่วยกันกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุง โดยเน้นใช้หลัก 3เก็บ ได้แก่ 1.เก็บบ้านให้สะอาดเรียบร้อย ปลอดโปร่ง ไม่ให้มีมุมอับทึบเป็นที่เกาะพักของยุง 2.เก็บขยะ เศษภาชนะ รอบๆบ้าน ทั้งใบไม้ กล่องโฟม จานรองกระถางต้นไม้ ต้องเก็บกวาด ฝัง เผา หรือทำลาย และ3.เก็บน้ำ ต้องปิดฝาให้มิดชิดป้องกันยุงลายลงไปวางไข่ เพื่อกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลายอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในบริเวณครัวเรือน โรงเรียน เขตก่อสร้าง สถานีขนส่ง และหอพักรอบมหาวิทยาลัย เป็นต้น โดยให้ดำเนินการอย่างสม่ำเสมออย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง



ที่มา http://health.mthai.com/knowledge/12473.html

เมื่อวันที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2560 นายชวน จันทร์เลื่อน สาธารณสุขอำเภอน้ำยืน นายสากล สีทากุล ผู้ช่วยสาธารณสุขอำเภอน้ำยืน ตำบล สีวิเชียร อำเภอ น้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี จัดประชุมฝ่าย การนำเสนอรายงานจัดกลุ่มงานภาระงาน ของบุคลากรในองค์กรเพื่อให้ทราบถึงภาระหน้าที่แต่ละบุคคล พร้อมทั้งยังประชุม KPI งานส่วนรับผิดชอบต่างๆของแต่ล่ะคน เพื่อให้ทราบถึงกรอบภาระงาน การมอบหมายงาน และแนะนำการปฏิบัติงานของบุคลากรตามลำดับ